ไคลเอ็นต์ตรวจสอบความถูกต้องของคีย์สาธารณะของเซิร์ฟเวอร์ระหว่าง TLS handshake ได้อย่างไร
ในระหว่างการจับมือ TLS ไคลเอ็นต์จะตรวจสอบความถูกต้องของคีย์สาธารณะของเซิร์ฟเวอร์โดยใช้การเข้ารหัสแบบอสมมาตร ใบรับรองดิจิทัล และบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ซึ่งเรียกว่า Certificate Authority (CA) กระบวนการนี้ทำให้แน่ใจว่าไคลเอนต์กำลังสื่อสารอย่างปลอดภัยกับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการและไม่ใช่ผู้แอบอ้าง เมื่อไคลเอ็นต์เริ่มต้น TLS
เหตุใดการรับรองความถูกต้องจึงมีความสำคัญในการป้องกันการโจมตีจากคนกลางใน TLS
การรับรองความถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการโจมตีจากคนกลาง (MITM) ในบริบทของ Transport Layer Security (TLS) TLS เป็นโปรโตคอลการเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งให้การสื่อสารที่ปลอดภัยผ่านอินเทอร์เน็ต ช่วยให้มั่นใจถึงความลับและความสมบูรณ์ของข้อมูลที่แลกเปลี่ยนระหว่างไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการพิสูจน์ตัวตนที่เหมาะสม ผู้โจมตีก็สามารถโจมตีได้
- ตีพิมพ์ใน cybersecurity, EITC/IS/WASF พื้นฐานด้านความปลอดภัยของเว็บแอปพลิเคชัน, การโจมตี TLS, การรักษาความปลอดภัยชั้นการขนส่ง, ทบทวนข้อสอบ
การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle (MITM) ในบริบทของ TLS คืออะไร และการโจมตีนี้ส่งผลต่อความปลอดภัยของเว็บแอปพลิเคชันอย่างไร
การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle (MITM) ในบริบทของ Transport Layer Security (TLS) เป็นการสกัดกั้นการสื่อสารระหว่างสองฝ่ายโดยมุ่งร้าย โดยที่ผู้โจมตีแอบถ่ายทอดและอาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่กำลังแลกเปลี่ยน การโจมตีประเภทนี้จะทำลายความปลอดภัยของเว็บแอปพลิเคชันโดยใช้ประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างผ่านการเข้ารหัส TLS ทำให้ผู้โจมตีสามารถ
- ตีพิมพ์ใน cybersecurity, EITC/IS/WASF พื้นฐานด้านความปลอดภัยของเว็บแอปพลิเคชัน, การโจมตี TLS, การรักษาความปลอดภัยชั้นการขนส่ง, ทบทวนข้อสอบ
เหตุใด TLS จึงมีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของเว็บแอปพลิเคชัน และอะไรคือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ HTTP แทน HTTPS
Transport Layer Security (TLS) มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยเว็บแอปพลิเคชัน เนื่องจากความสามารถในการเข้ารหัสการสื่อสารระหว่างไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์ มอบการรักษาความลับ ความสมบูรณ์ และการรับรองความถูกต้อง ทำให้เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ต ในทางตรงกันข้าม การใช้ HTTP แทน HTTPS จะทำให้เว็บแอปพลิเคชันมีศักยภาพที่หลากหลาย