VirtualBox เป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชวลไลเซชันที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและเรียกใช้เครื่องเสมือนบนระบบปฏิบัติการต่างๆ เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเรียกใช้ระบบปฏิบัติการหลายระบบพร้อมกันบนเครื่องจริงเครื่องเดียว จึงทำให้ผู้ใช้สามารถทดสอบการกำหนดค่าซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ปฏิบัติงานด้านการดูแลระบบ และเพิ่มความปลอดภัยโดยแยกระบบที่อาจมีความเสี่ยง ในบริบทนี้ เราจะสำรวจเวอร์ชันต่างๆ ของ VirtualBox ที่พร้อมใช้งานสำหรับระบบปฏิบัติการต่างๆ โดยเน้นไปที่การดูแลระบบ Windows Server
VirtualBox ได้รับการพัฒนาโดย Oracle Corporation และให้บริการเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สฟรี รองรับระบบปฏิบัติการโฮสต์ที่หลากหลาย รวมถึง Windows, macOS, Linux และ Solaris นอกจากนี้ยังอนุญาตให้สร้างและจัดการเครื่องเสมือนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแขกต่างๆ เช่น Windows, Linux, macOS, Solaris และ BSD
สำหรับการดูแลระบบ Windows Server VirtualBox มีหลายเวอร์ชันที่เข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการ Windows Server ที่แตกต่างกัน เวอร์ชันที่มีอยู่ ได้แก่ VirtualBox 6.1, VirtualBox 6.0, VirtualBox 5.2 และ VirtualBox 5.1 แต่ละเวอร์ชันได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานกับ Windows Server รุ่นต่างๆ และมีคุณสมบัติและการปรับปรุงต่างๆ
VirtualBox 6.1 เป็นเวอร์ชันเสถียรล่าสุด ณ เวลาที่เขียน และแนะนำให้ใช้กับ Windows Server 2019 โดยนำเสนอคุณสมบัติด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการใช้งานที่ได้รับการปรับปรุงเมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า คุณสมบัติเด่นบางประการของ VirtualBox 6.1 ได้แก่ การรองรับการจำลองเสมือนที่ซ้อนกัน การรองรับเสียงที่ได้รับการปรับปรุง และการผสานรวมกับระบบปฏิบัติการโฮสต์ที่ดีขึ้น
VirtualBox 6.0 เป็นเวอร์ชันก่อนหน้าที่เข้ากันได้กับ Windows Server 2016 ซึ่งมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น โฟลเดอร์ที่ใช้ร่วมกัน การสนับสนุนกราฟิกที่ได้รับการปรับปรุง และการสนับสนุนการส่งออกเครื่องเสมือนไปยังระบบคลาวด์ VirtualBox 6.0 ยังให้การเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ไขจุดบกพร่องเมื่อเปรียบเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า
VirtualBox 5.2 เป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งที่รองรับ Windows Server 2016 เช่นเดียวกับ Windows Server 2012 และ Windows Server 2012 R2 แนะนำคุณสมบัติต่างๆ เช่น การสนับสนุนการแสดงผลความละเอียดสูงที่ได้รับการปรับปรุง การสนับสนุนการส่งออกเครื่องเสมือนไปยัง Oracle Cloud Infrastructure และการสนับสนุนการส่งผ่านพอร์ตขนาน
VirtualBox 5.1 เป็นเวอร์ชันเก่าที่เข้ากันได้กับ Windows Server 2012 และ Windows Server 2012 R2 มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น การรองรับ USB ที่ดีขึ้น และการรองรับการกำหนดค่าเครือข่าย IPv6
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือเมื่อดาวน์โหลดโปรแกรมดูแลระบบ VirtualBox สำหรับ Windows Server สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเวอร์ชันที่เหมาะสมซึ่งตรงกับรุ่น Windows Server ที่ใช้อยู่ วิธีนี้จะช่วยให้เข้ากันได้และเพิ่มประสิทธิภาพและฟังก์ชันการทำงานของเครื่องเสมือนให้สูงสุด
VirtualBox มีเวอร์ชันต่างๆ มากมายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ รวมถึง Windows Server โดยเวอร์ชันที่มีให้เลือกใช้ ได้แก่ VirtualBox 6.1 สำหรับ Windows Server 2019, VirtualBox 6.0 สำหรับ Windows Server 2016, VirtualBox 5.2 สำหรับ Windows Server 2016, Windows Server 2012 และ Windows Server 2012 R2 และ VirtualBox 5.1 สำหรับ Windows Server 2012 และ Windows Server 2012 R2 การเลือกเวอร์ชันที่ถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจถึงความเข้ากันได้และประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุด
คำถามและคำตอบล่าสุดอื่น ๆ เกี่ยวกับ กำลังดาวน์โหลด Windows Server:
- เหตุใดการเลือกช่องทำเครื่องหมาย "Always trust software from Oracle Corporation" จึงมีความสำคัญในระหว่างขั้นตอนการติดตั้ง
- ขั้นตอนในการดาวน์โหลด VirtualBox จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการคืออะไร?
- จุดประสงค์ของการดาวน์โหลดและติดตั้ง VirtualBox คืออะไร?
- Virtualization คืออะไร และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ในโลกไอทีอย่างไร?

